บทความที่ได้รับความนิยม


Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

งานประดิษฐ์ 2555 ทำเงินเด่น ลูกเล่น สำคัญ *

  ในรอบปี 2555 ’งานฝีมือ-งานประดิษฐ์“ ยังคงมี “งานไอเดียเก๋-งานดีไซน์เด่น” หลากหลาย มีออกมาอยู่เรื่อย ๆ มีทั้งผู้ที่ยึดทำเป็นอาชีพหลัก และทำเพื่อสร้างรายได้เสริม ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมา กับงานเด่น ๆ โดยเฉพาะงาน “ของใช้-ของกระจุกกระจิก” ที่ ’ใส่ลูกเล่น“ ได้โดน ๆ สามารถ ’ทำเงินได้ดีจากการสังเกตพฤติกรรมของลูกค้า“ นั้น ในวันนี้ ณ ที่นี้ก็ได้ประมวลบางส่วนมายกตัวอย่างกันอีกครั้งโดยสังเขป กับ ’ช่องทางทำกินหน้าพิเศษ ส่งท้ายปี 2555“ ...

“ตัวหนีบไม้ การ์ตูน” ของ พงศ์พิชา ชาตเสรีย์ เป็นงานไอเดียน่ารักสะดุดตา โดยนำไม้หนีบผ้าไม้มาใส่ดีไซน์ จนเกิดเป็นชิ้นงานที่ไม่ซ้ำกัน แถมยังสามารถต่อยอดได้เรื่อย ๆ สนใจติดต่อที่ โทร. 09-0605-4607, 08-9202-6183

“พวงกุญแจรองเท้า” เป็นงานฝีมือกระจุกกระจิกของ นพดล ไกรเพ็ชร-นิสา นิติพันธ์ ที่ย่อส่วนรองเท้าให้กลายเป็นงานพวงกุญแจ รูปแบบเก๋ไก๋ เจาะกลุ่มลูกค้าได้ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งวัยรุ่น สนใจติดต่อ โทร. 08-9440-9317


สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade


“แหวนหนัง” งานฝีมือประเภทเครื่องประดับจากวัสดุหนัง ของ สุวิษา เธียรฐิติพฤฒิ นอกจากความประณีตแล้ว ด้วยความแตกต่างที่ไม่เหมือนใคร ก็กลายมาเป็นจุดขายสำคัญที่ทำเงินได้งาม ๆ สนใจติดต่อ โทร. 08-1432-2272

“ที่หุ้มแก้วกันน้ำ” เป็นงานสร้างสรรค์ของ ภัทรพล เรืองศรี-รัชนก พุม มา ที่มองโอกาสจากของใช้ที่หลายคนมองข้าม จนกลายเป็นสินค้าทำเงินกับกลุ่มเป้าหมายพนักงานออฟฟิศ นักศึกษา สนใจติดต่อโทร. 08-6508-9088
   
“ไม้แขวนเสื้อดีไซน์” งานของ นภนท์-วนันท์ญา พิวงศ์ รายนี้นำของใช้ธรรมดา ๆ อย่างไม้แขวนเสื้อ มาตกแต่ง ออกแบบให้สะดุดตาน่าสนใจ กลายเป็นชิ้นงานทำเงินเพิ่มมูลค่าได้อย่างไม่น่าเชื่อ สนใจติดต่อ โทร. 08-9227-2129

“ลูกบอลดอกไม้” หรือ “ฟลาวเวอร์บอล” ของ เจตน์ โนหล้า นำงานดอกไม้ประดิษฐ์มาเพิ่มมูลค่า ด้วยการประยุกต์เข้ากับลูกบอลโฟม จนกลายเป็นชิ้นงานแปลกตา สวยงาม และต่อยอดได้ สนใจติดต่อ โทร.0-2912-3765

“หุ้มปกไดอารี่” ของ ชุตินันท์ พูลศิลป์ เป็นงานประดิษฐ์ที่เน้นการนำเอาลวดลายสวย ๆ จากผ้า มาทำให้สมุดบันทึกหรือไดอารี่แบบเดิม ๆ มีลูกเล่นน่าสนใจ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้สมุดบันทึก สนใจติดต่อ โทร. 08-1920-6027

“งานผ้า-งานปัก” ผิวเผินดูธรรมดา แต่ วิลาสินี พูลพิพัฒน์ สร้างจุดเด่นโดยนำผ้าผืนเก่ามาสร้างสรรค์ใหม่ ด้วยการผสานดีไซน์กับงานเย็บปักถักร้อย จนเป็นชิ้นงานหลายประเภท ต่อยอดไปได้เรื่อย ๆ สนใจติดต่อ โทร. 08-0446-2445

“ตุ๊กตาสวิตช์ไฟ” เป็นงานไอเดียแปลก ๆ โดน ๆ ของ ศุกฤษ จันทร์เพ็ญ-ยิ่งยศ พูลเพิ่มทรัพย์ ที่นำสวิตช์ไฟมาสร้างสรรค์ของกระจุกกระจิก-ของที่ระลึก จนมีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ สนใจติดต่อ โทร. 09-0653-3389, 09-0981-2960
        
“หมอนอิงการ์ตูน” นี่ก็อาจดูธรรมดาถ้าไม่ได้สัมผัสของจริง โดย อรุณโรจน์ บุญฉลอง ที่ทำงานนี้ ได้เลือกจับตลาดสินค้าในกลุ่มของใช้ และของที่ระลึก โดยนำหมอนอิงรูปแบบธรรมดา ๆมาต่อยอดจนกลายเป็นหมอนตัวการ์ตูนหน้าตาแปลก ๆ น่ารัก ๆ ทั้งยังให้ลูกค้าสามารถระบุข้อความด้านหลังหมอนอิงได้ สนใจติดต่อ โทร. 08-0952-9914

ทั้งนี้ กับ ’งานฝีมือ-งานประดิษฐ์“ ที่ว่ามา 10 แบบ 10 กรณี นี่ก็เป็นบางส่วนที่ใส่ลูกเล่นได้โดนใจลูกค้า ที่ทีม ’ช่องทางทำกิน“ ประมวลมายกตัวอย่างกัน จากที่ได้นำเสนอในช่วงปี 2555 ซึ่งงานประดิษฐ์งานฝีมือนี้หลายคนอาจจะมองว่าทำยากขายยาก อาจมองว่าสู้สินค้ากลุ่มอื่น ๆ ไม่ได้ แต่ ณ ที่นี้ก็ขอบอกว่า...ใครที่คิดเช่นนี้อยู่อาจจะคิดผิด??

“งานประดิษฐ์-งานฝีมือ” หากรู้จักคิดทำอะไรที่เป็นรูปแบบใหม่ ๆ มองหาช่องว่างทางการตลาด-ความต้องการลูกค้า และที่สำคัญ ’ใส่ลูกเล่นได้โดน ๆ“ ไม่ว่าจะปีนี้ ปีหน้า หรือปีไหน ๆ ก็ ’มีโอกาสรุ่งได้-รวยได้“

อย่าได้มองข้าม...!!!.

ทีมช่องทางทำกิน

Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/384/174953

Read More...


เทียนหอมดีไซน์ เน้นรูปแบบ...ยังไม่ตัน *

 แม้ทีม “ช่องทางทำกิน” เคยนำเสนองานฝีมืองานประดิษฐ์ด้าน “การทำเทียน” ไปแล้วหลายครั้ง รวมถึงเสาร์ที่ผ่านมา ทว่างานด้านนี้ก็ยังมีคนช่างคิดที่รู้จักประดิษฐ์ดัดแปลงทำออกมาขายอีกหลาก หลายแบบอยู่เรื่อย ๆ ตอบโจทย์ตลาดสินค้านี้ว่ายังไม่ถึงทางตัน ซึ่งหนึ่งในจุดสำคัญคือ การมองหาจุดขาย-สร้างรายละเอียด ยิ่งผสานการออกแบบ และผลิตชิ้นงานด้วยความประณีต นอกจากจะขายได้ในตลาดของใช้แล้ว ก็ยังสามารถทำเงินจากตลาดของตกแต่งได้ด้วย อย่างเช่นงานดีไซน์ “เทียนหอมดีไซน์” ของ “แตง-อังคณา นวรัตน์ ณ อยุธยา” ที่จะนำเสนอในวันนี้...

 แตง-อังคณา เล่าว่า ปัจจุบันทำงานเป็นเลขานุการในบริษัทจัดประชุมและสัมมนาแห่งหนึ่ง แต่ด้วยความที่ชอบงานฝีมือ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับเทียน จึงสนใจหาความรู้ด้านนี้เพิ่มเติม ตอนหลังมีพี่ในที่ทำงานนำหนังสือเกี่ยวกับเทียนหอมมาให้ดู ด้วยความที่ชอบเป็นทุนเดิมจึงพยายามศึกษาและทดลองทำมาเรื่อย ๆ ข้อดีของงานเทียนคือ ถ้าทำผิดก็สามารถที่จะทำใหม่ได้ ต่อมาเมื่อเริ่มเก่งขึ้นจึงทดลองนำไปฝากคนรู้จัก โดยใส่ไอเดียและรูปแบบที่มาจากแรงบันดาลใจเกี่ยวกับดอกไม้ จนต่อมาก็พัฒนาจนกลายมาเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ในปัจจุบัน โดยใช้ชื่อเล่นเป็นชื่อสินค้า และแม้จะไม่มีหน้าร้าน แต่ก็ไม่มีปัญหา เพราะอาศัยช่องทางจำหน่ายผ่านเว็บไซต์  http://designbytang.lnwshop.com กับ www.facebook.com/desingbytang ซึ่งช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายภายในร้านลงได้มาก และดีกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจ

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

“ด้วยความที่ชอบเทียนหอมเป็นการส่วนตัว และก็เป็นคนชอบดอกไม้ที่สุด เมื่อมาทำเทียนจึงมีความคิดที่จะทำให้เป็นเทียนหอมในรูปแบบเหมือนช่อดอกไม้ ซึ่งสามารถเก็บไว้ได้นาน และใช้เป็นของประดับตกแต่งได้อีกด้วย โดยมีการผสมกลิ่นน้ำมันหอมระเหยลงไปเพื่อความสดชื่น” แตง-อังคณา เล่าถึงที่มาของชิ้นงานที่ทำ

แม้ปัจจุบันตลาดเทียนหอมมีการแข่งขันสูง แต่ก็เป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ดี การจะผลิตสินค้าขึ้นมาต้องแน่ใจว่ารักที่จะทำในสิ่งนั้น ซึ่งหากทำจากความชอบและมีความชำนาญ โดยเสริมจินตนาการกับรูปแบบลงไป ก็น่าจะช่วยสร้างการยอมรับและสร้างข้อแตกต่างให้สินค้าของเราได้ ทั้งนี้ ปัจจุบันสินค้าที่แตงทำอยู่มีการผลิตแบบออกมาใหม่เรื่อย ๆ แต่จะ มีจุดเด่นอยู่ที่ “ความไม่เหมือนกัน” ของงานเทียนแต่ละชิ้น เนื่องจากงานที่ทำออกมาทั้งหมดเป็นการปั้นมือทุกขั้นตอนโดยไม่ได้ใช้แม่ พิมพ์ โดยจะมีการใส่รหัสสินค้าไว้ในแต่ละแบบ เพื่อให้ลูกค้าทราบถึงความแตกต่าง

ทุนเบื้องต้นอาชีพนี้ ถ้าเริ่มทำเล็ก ๆ ก็อยู่ที่ไม่เกิน 5,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นค่าวัสดุที่ใช้ในการทำเทียน ส่วนทุนวัสดุในการทำชิ้นงานแต่ละชิ้น อยู่ที่ประมาณ60% จากราคาขาย ที่มีตั้งแต่ 20-380 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและรายละเอียด

วัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ ประกอบด้วย พาราฟินแวกซ์, โพลีเอทีลีนแวกซ์ หรือพีอีแวกซ์ (ทำให้เทียนแข็งและจุดติดได้นานขึ้น), สเตรียริคแอซิด (ช่วยทำให้ผิวเทียนมันลื่น), ไมโครแวกซ์ (ช่วยให้เนื้อเทียนเหนียวปั้นเป็นรูปร่างได้ง่าย), ขี้ผึ้งแท้, ไส้เทียน, น้ำมันหอมระเหย, สีผสมเทียน, หม้อหุงข้าวไฟฟ้า (สำหรับละลายเทียน), กะละมัง (หรือกระบอก/ถ้วยสเตนเลส ใช้แบ่งน้ำเทียนเพื่อผสมสี), ทัพพีกลม (สำหรับตักน้ำเทียน), ช้อน (สำหรับคนผสมสีลงในเทียน), กรรไกร และคีมปากแบน (ใช้บีบฐานเทียนให้ยึดติดกับไส้เทียน) โดยทั้งหมดหาซื้อได้ตามร้านงานฝีมือทั่วไป

ขั้นตอนการทำ เริ่มจากละลายส่วนผสมทั้งหมดลงไปในหม้อที่ใช้ต้มเทียนจนละลายเป็นน้ำเทียนสี ใส เมื่อน้ำเทียนเย็นตัวจะได้เนื้อเทียนเป็นสีขาว หากต้องการผสมสีอื่น ๆ ให้ตักแบ่งน้ำเทียนจากหม้อแล้วค่อยเติมสีที่ต้องการลงไป คนให้เข้ากันจนไม่เห็นเม็ดสี นำไส้เทียนที่เตรียมไว้จุ่มลงไปในน้ำเทียนให้ทั่ว ทิ้งไว้สักพักไส้เทียนจะแข็งตัว

จากนั้นร้อยไส้เทียนเข้าไปในฐานรองเทียน ดึงไส้เทียนขึ้นจนสุดปลายเทียน ใช้คีมปากแบนบีบปุ่มที่ตัวฐานรองไส้เทียนเพื่อยึดไส้เทียนให้แน่น แล้วนำไส้เทียนที่ยึดติดกับฐานรองเทียนเรียบร้อยแล้วไปติดไว้ตรงกลางของถ้วย โดยให้หยดน้ำเทียนลงไปก่อนเพื่อให้ฐานรองยึดติดกับถ้วย เมื่อเทียนแห้งและแข็งตัวเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอน

“น้ำเทียนที่หยอดลงไปในภาชนะไม่ควรเย็นเกินไป เพราะทำให้เกิดฟองอากาศ หากต้องการตกแต่งเพิ่มความสวยงามให้หาแผ่นกระจกมาวางแล้วเทน้ำเทียนสีที่ ต้องการลงไปบนแผ่นกระจก เมื่อเทียนเริ่มเย็นตัวให้หาแบบกดเทียน เช่น หัวใจ ดาว ดอกไม้ ฯลฯ มากด แล้วนำไปตกแต่งเทียนตามต้องการ” แตง-อังคณา แนะนำ
   
ใครสนใจจะติดต่อ แตง-อังคณา ติดต่อได้ที่ โทร.08-1868-4066 หรือตามเว็บไซต์และเฟซบุ๊กข้างต้น ซึ่งงานดีไซน์ “เทียนหอมดีไซน์” นี้ ก็เป็นอีกหนึ่ง “ช่องทางทำกิน” ที่เป็นบทพิสูจน์ว่างานเทียนนี้ยังไม่ตัน หากรู้จักสร้างจุดต่าง

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งงานไอเดียส่งท้ายปีที่น่าสนใจ.
ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ เรื่อง-ภาพ

Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/384/173672

Read More...


‘รับจัดพิธีแต่งงาน’ ค่ายุ่ง-ค่าเหนื่อย..น่าสน *

ช่วงปลายปีจนถึงต้นปีของทุก ๆ ปี เป็นช่วงที่มีงานวิวาห์หรืองานแต่งงานค่อนข้างมาก ซึ่งนอกจากร้านตัดชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว ร้านรับทำของชำร่วย หรือแม้แต่สตูดิโอถ่ายภาพ จะเป็นที่ต้องการของคู่บ่าว-สาวแล้ว ก็มีอีกธุรกิจหนึ่งที่เป็นตัวกลางทำหน้าที่ดลบันดาลให้งานวิวาห์ดำเนินไป ด้วยความราบรื่น นั่นคือ “ธุรกิจรับจัดงานแต่งงาน” โดยเฉพาะในส่วน “งานพิธีแบบไทย” ที่ต้องใช้ความรู้ในเรื่องพิธีการมาก ซึ่งวันนี้ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลธุรกิจนี้มาให้พิจารณากัน...

สถาพร สมประสงค์ หรือ หนู อีกหนึ่งรายที่ทำธุรกิจรับจัดงานแต่งงาน เล่าว่า รับจัดงานแต่งงานมา 2-3 ปีแล้ว ที่มาจับธุรกิจประเภทนี้เพราะมีเหตุมาจากงานแต่งงานของตัวเองที่ต้องทำเอง ทุกอย่าง ทั้งเตรียมของ จัดสถานที่  คือเยอะ และเหนื่อยมาก เมื่อเสร็จงานก็ต้องมาเก็บของอีก จึงปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่าน่าจะลองมาทำธุรกิจนี้ดูเพื่ออำนวยความสะดวกให้คนที่ จะแต่งงานกัน และส่วนตัวก็มีความรู้เรื่องธรรมเนียมและอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในงานแต่ง จึงได้ทำธุรกิจนี้ โดยเริ่มจากไปช่วยจัดงานแต่งให้กับญาติก่อน และค่อย ๆ ขยับขยายกลายเป็นธุรกิจขึ้นมา         
.
 

            
คร่าว ๆ สำหรับผู้ที่สนใจทำธุรกิจนี้ สถาพรบอกว่า จะต้องมีอุปกรณ์ประกอบพิธีให้ครบ เพราะงานแต่งงานเป็นงานที่มีขั้นตอนมาก  อุปกรณ์ก็ต้องมากตามไปด้วย  โดยอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในงาน มีประมาณ 5-6 รายการหลัก ๆ อาทิ

ชุดพิธีสงฆ์ จะประกอบด้วย ชุดโต๊ะหมู่บูชา, พรมสำหรับพระสงฆ์, อาสนะสงฆ์, กระถางธูป, เชิงเทียน, แจกันดอกไม้ทองเหลืองขัดเงา, สายสิญจน์, บาตรน้ำมนต์พร้อมเทียนน้ำมนต์และที่พรมน้ำมนต์, ดอกไม้ ธูป เทียน ถวายพระสงฆ์ และบูชาพระ, ชุดกรวดน้ำทองเหลืองขัดเงา, กระโถน เป็นต้น            

ชุดตักบาตรสำหรับพระสงฆ์ และพระพุทธ ประกอบด้วย ข้าวสวย, อาหารคาว, ขนมหวาน และผลไม้, พรมสำหรับบ่าวสาวทำพิธีสงฆ์ ชุดขันหมาก ประกอบไปด้วย พานขันหมาก และกรวยครอบ, พานแหวนหมั้น, พานรับขันหมาก, พานสินสอด และกรวยครอบ, พานธูปเทียนแพ, ร่มลายไทยสีน้ำตาลทอง       

ชุดพิธีไหว้ผู้ใหญ่ ประกอบด้วย พานข้าวตอกดอกไม้, พานนับสินสอด, ผ้ารองพานนับสินสอดทองหมั้น, พานใส่ของรับไหว้ผู้ใหญ่, หมอนรับไหว้ ชุดหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ ประกอบด้วย ชุดโต๊ะหลั่งน้ำพระพุทธมนต์,  แป้งเจิมปรุงน้ำอบไทย, มาลัยบ่าว-สาว, พานดอกไม้รองน้ำสังข์, ฉากผ้าม่านพร้อมดอกไม้ประดับด้านบน, พรมรองพื้น, หอยสังข์, มงคลแฝด, สแตนด์ดอกไม้, ป้ายชื่อบ่าว-สาว, พานใส่ของชำร่วย   

และในส่วนของ ชุดพิธีส่งตัว จะต้องใช้ ฟักเขียว (ให้อยู่เย็นเป็นสุข), ถุงเงิน ถุงทอง (ให้เก็บหอมรอมริบ เงินทองไหลมาเทมา), ไม้เท้า (ให้ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร), ตุ๊กตาแมวคราว (ให้อยู่กับเหย้า เฝ้ากับเรือน), หินเต่าคู่มงคล (ให้หนักแน่นเหมือนหิน อายุยืนเหมือนเต่า), พานข้าวตอก ดอกไม้ ถั่ว งา (ให้ชีวิตคู่โรยด้วยกลีบกุหลาบ เงินทองงอกเงย) สถาพรบอกว่า นอกจากจะต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในพิธี เมื่อเสร็จพิธีแล้วจะต้องเก็บของให้ด้วย เจ้าภาพมีหน้าที่แค่เพียงนิมนต์พระ, ซองใส่ปัจจัย, ชุดแต่งงาน น้ำ และน้ำแข็ง ไว้บริการแขกเหรื่อของตัวเอง  
ขั้นตอนการเตรียมงานนั้น ลูกค้าจะต้องมาคุยกันก่อนว่าจะจัดงานวันไหน จัดที่ไหน ฤกษ์กี่โมง ต้องนัดเจอดูสถานที่ และเพื่อแจกแจงระเบียบพิธีการ สอบถามความต้องการของลูกค้า อย่างเช่น ฉากหลั่งน้ำสังข์ต้องการสีอะไร, ป้ายชื่อต้องการแบบไหน, มีพิธีกรในงานหรือไม่ ฯลฯ ซึ่งสถาพรบอกว่า จากประสบการณ์งานแต่งงานพิธีไทยส่วนใหญ่นิยมจัดที่บ้านหรือสโมสร และจัดในช่วงเช้า ซึ่งจะต้องเตรียมงานตั้งแต่ตีสามถึงตีสี่ และขนอุปกรณ์ไปไว้ก่อนล่วงหน้า 1 วัน

สำหรับต้นทุนในการจัดพิธีงานแต่งงานแต่ละครั้ง สถาพรบอกว่า อยู่ที่ประมาณ 20,000 บาท หรือขึ้นอยู่กับขนาดของงาน และความต้องการของลูกค้า  ส่วนรายได้ในแต่ละคราวนั้นจะอยู่ที่ประมาณ  29,000 บาทขึ้นไป

ธุรกิจรับจัดงานแต่งงานของสถาพร อยู่ที่ 122 อาคารสมประสงค์แมนชั่น ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 7 แยก 2 ห้วยขวาง กรุงเทพฯ โทร. 08-1915-5928 มีเว็บไซต์คือ http://www.weddingsquare.com/boonweddingthai และ www.facebook.com/boonwedding.thai ซึ่ง “รับจัดงานแต่งงาน” นี่ก็เป็น “ช่องทางทำกิน” ที่น่าพิจารณามิใช่น้อย.

สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล
แสงจันทร์ สนั่นเอื้อ : รายงาน

..................................

คู่มือลงทุน...รับจัดพิธีแต่งงาน

ทุนอุปกรณ์    ประมาณ 100,000 บาทขึ้นไป
ทุนหมุนเวียน    20,000 บาทขึ้นไป / ครั้ง
รายได้     29,000 บาทขึ้นไป /ครั้ง
แรงงาน    ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป
ตลาด    ประชาสัมพันธ์ทางเว็บไซต์    
จุดน่าสนใจ    คนรุ่นใหม่ ๆ ไม่ค่อยรู้พิธีการ 

Credit by.. http://www.dailynews.co.th/article/384/172560

Read More...


“ตุ๊กตาอัดเสียง” เก็บเสียงได้-ใช้ทำเงิน!! *

 อาชีพงานประดิษฐ์ประเภทของขวัญ-ของที่ระลึก นอกจากขายฝีมือการประดิษฐ์ชิ้นงานแล้ว บางชนิดก็พลิกแพลงเป็นงานบริการได้อีกทางหนึ่งด้วย ยิ่งถ้าเสริมในเรื่องของกระจุกกระจิกหรือของประดับตกแต่งเข้าไป ก็ยิ่งเพิ่มจุดขายและจุดเด่นให้งานบริการได้เป็นอย่างดี อย่างเช่น “ตุ๊กตาอัดเสียง” ที่ทาง “ช่องทางทำกิน” จะนำเสนอในวันนี้...

“หทัยชนก สมมิตร” เล่าว่า ทำงานเป็นพนักงานบริษัท ต่อมาอยากหาอาชีพเสริมทำเพื่อเสริมรายได้ และด้วยความที่เป็นคนมีนิสัยชอบความโรแมนติก เวลาที่ต้องมอบของขวัญให้คนที่รู้ใจหรือคนรู้จักที่สนิทก็มักจะมองหาของขวัญ ที่มีลักษณะพิเศษอยู่เสมอ จึงเกิดความคิดว่า ถ้ามองถึงของขวัญที่สามารถแทนใจแทนความรู้สึกของผู้ให้ ที่จะทำให้คนรับนึกถึงคนให้ได้เสมอ ของขวัญต้องมีจุดเด่นที่พิเศษไม่เหมือนใคร จึงหันมาสนใจธุรกิจ “ตุ๊กตาอัดเสียง” นี้

 


“ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ถ้าต้องเลือกของขวัญสักชิ้นให้คนพิเศษ จะเลือกซื้ออะไร เราก็เลยมองไปที่ตุ๊กตาเพราะเราชอบงานตุ๊กตาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คำถามต่อมาคือ ตุ๊กตาอะไรที่สามารถมอบได้กับคนทุกเพศทุกวัย เราก็มองไปที่ตุ๊กตาหมี ก็เลยเกิดเป็นธุรกิจเล็ก ๆ นี้ขึ้นในชื่อ “I’m a Bear” หทัยชนกกล่าว ก่อนเล่าต่อไปว่า เมื่อได้คำตอบว่าน่าจะเป็นตุ๊กตาหมี จึงคิดว่าน่าจะเพิ่มลูกเล่นให้สินค้าน่าสนใจขึ้น และมองว่าลูกค้าบางคนอาจอยากฝากข้อความพิเศษหรือบันทึกเสียงคำอวยพรเพื่อบอก ความในใจและความรู้สึก เพราะหลายคนเขินอายไม่กล้าพูด ทำให้คิดว่าบริการตัวนี้น่าจะช่วยเหลือลูกค้าตรงจุดนี้ได้ โดยตุ๊กตาที่ให้บริการอยู่นั้น สามารถอัดหรือลบเสียงได้ตลอดเวลา

ปัจจุบันสินค้ายังไม่มีหน้าร้านจำหน่าย แต่อาศัยจำหน่ายผ่านเฟซบุ๊ก www.facebook.com/IamAbear2012 ซึ่งเปิดมาได้ 6 เดือนแล้ว ผลตอบรับก็ค่อนข้างน่าพอใจ โดยลูกค้ามีทั้งนักเรียน นักศึกษา ไปจนถึงวัยทำงาน ซึ่งข้อดีของการจำหน่ายผ่านช่องทางนี้คือ ต้นทุนต่ำ สื่อสารกับลูกค้าได้ตลอดเวลา ยิ่งปัจจุบันเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนมีผู้ใช้เพิ่มขึ้น ทำให้ช่องทางนี้เป็นที่สนใจ เพราะกำลังเติบโตและได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากสะดวก ตอบสนองต่อวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป

“นอกเหนือไปจากการที่อัดเสียงได้ เราเสริมในเรื่องชุดเสื้อผ้าและของประดับเพิ่มเข้าไป โดยเฉพาะช่วงเทศกาล หรือโอกาสพิเศษ เช่น รับปริญญา จบการศึกษา หรือรับทำของที่ระลึกประจำรุ่นที่จบ ซึ่งระบุได้ว่าอยากจะปักชื่อหรือข้อความอะไร นอกจากนี้ยังรับสั่งทำรูปอื่น ๆ ตามที่ลูกค้าต้องการด้วย” หทัยชนกกล่าว

ทุนเบื้องต้นอาชีพ ใช้ประมาณ 20,000 บาท เป็นค่าตุ๊กตาหมีและเครื่องบันทึกหรืออัดเสียง ส่วนทุนวัตถุดิบอยู่ที่ประมาณ 65% จากราคาขาย ซึ่งมีตั้งแต่ 350 บาท ไปจนถึง 1,000 บาท ขึ้นกับขนาดตุ๊กตา โดยสินค้ามี 4 แบบคือ 1.แบบของทางร้าน 2.ชุดรับปริญญา 3.ชุดนักเรียน 4.แบบที่สั่งทำเฉพาะ ส่วนขนาดมี 3 ขนาดคือ ใหญ่, กลาง, เล็ก  ซึ่งวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำมีไม่มาก อาทิ ตุ๊กตาหมี, ชุดตุ๊กตาหมี, เครื่องอัดเสียง และอุปกรณ์สำหรับเย็บผ้า เช่น เข็ม, ด้าย, กรรไกร

“ปกติเราจะเตรียมเงินหมุนเวียนในการสต๊อกสินค้าอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทต่อเดือน เพราะการสต๊อกสินค้าจะทำให้เราสามารถควบคุมเรื่องราคาต้นทุนได้ และทำให้เราสามารถเช็กยอดสินค้าคงคลังของเราได้รวดเร็ว แต่ข้อเสียคือ หากสต๊อกสินค้าไว้ไม่เหมาะสมก็อาจจะมีปัญหาเรื่องต้นทุนที่จมลงไปกับสินค้า หรือหากสั่งน้อยไปจนสินค้าไม่พอกับความต้องการก็อาจทำให้เราเสียโอกาสในการ ขายสินค้าได้” หทัยชนกแนะนำ

การทำ “ตุ๊กตาอัดเสียง” เนื่องจากนี่เป็นธุรกิจบริการประเภทที่นำสินค้ามาผสมผสาน ขั้นตอนจึงไม่มีอะไรมาก

จะมีในส่วนที่ต้องทำที่เป็นจุดขายก็คือ การบันทึกหรืออัดเสียงพูด ซึ่งมีขั้นตอนคือ ลูกค้ากดปุ่มตัวอาร์ตรงแขนด้านซ้ายของตุ๊กตาค้างไว้ จนได้ยินเสียงสัญญาณดัง จึงทำการพูดเพื่อบันทึกเสียงลงไป เมื่อพูดจบให้ปล่อยมือจากปุ่ม จะได้ยินเสียงสัญญาณดังสองครั้งจึงจะถือว่าการอัดเสียงเสร็จสมบูรณ์ หากต้องการฟังก็ให้กดตรงแขนด้านขวา

ส่วนการลบเสียง ให้กดที่แขนด้านซ้ายของตุ๊กตาโดยไม่ต้องกดค้างไว้ จะได้ยินเสียงสัญญาณดังสองครั้ง ถือว่าลบเสียงออกได้สมบูรณ์ หากไม่แน่ใจก็กดที่แขนขวาเพื่อลองฟังดูก่อนอัดเสียงใหม่ได้ ซึ่งเหล่านี้ลูกค้าสามารถทำได้ด้วยตัวเองตามคำแนะนำในการใช้งาน โดยสามารถดูได้ที่เฟซบุ๊กของทางร้าน
ใครสนใจติดต่อหทัยชนก ติดต่อได้ที่ โทร. 08-8884-0409 หรืออีเมลiam_a_bear@hotmail.com ส่วนตัวสินค้าก็เข้าไปดูที่เฟซบุ๊กของทางร้าน ซึ่ง “ตุ๊กตาอัดเสียง” นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่ง “ช่องทางทำกิน” ที่ผสมผสานรูปแบบการสร้างสรรค์ชิ้นงานที่น่าสนใจ และยังใช้ช่องทางจำหน่ายสินค้าที่น่าสนใจ ในโลกยุคออนไลน์ที่เติบโตขึ้นทุกวัน.
ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ เรื่อง-ภาพ
Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/384/171151

Read More...


‘เคสย่านลิเภา’ ฝีมือไทยทำเงินอินเทรนด์ *

การช่วยส่ง เสริม-พัฒนาเอสเอ็มอี และโอทอป โดยกระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ยังคงเดินหน้าอยู่ตลอด ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ทีม “ช่องทางทำกิน” ได้ไปพบเจอผลิตภัณฑ์ของผู้ที่ได้เข้าร่วมโครงการสร้างตราสินค้าใหม่ให้แก่ ผลิตภัณฑ์และบริการที่ใช้แนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์เป็นตัวขับเคลื่อน กับแบรนด์ “โฟลี่ บาย บุญยรัตน์” ซึ่งมี “เคสสมาร์ทโฟนจากย่านลิเภา” เป็นผลิตภัณฑ์เด่น จึงนำมาเล่าสู่กัน เพื่อเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษา...
  
ผลิตภัณฑ์ นี้นำเสนอแนวคิดด้าน Creative Mobile Life นำย่านลิเภามาผสานกับชีวิตสมัยใหม่ยุคไอที โดย เจษฎา หงสุชน กรรมการผู้จัดการ หจก.บุญยรัตน์ไทยคร๊าฟท์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า บุญยรัตน์ไทยคร๊าฟท์ทำกระเป๋าย่านลิเภาและเครื่องถมมาตั้งแต่รุ่นคุณย่าคุณ ยาย จนกลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของ จ.นครศรีธรรมราช ช่วงสองสามปีก่อนมีความคิดขยายกลุ่มลูกค้า โดยตั้งเป้าลดอายุกลุ่มเป้าหมายให้เหลือประมาณ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งด้วยทักษะที่ประณีตและดีไซน์ลวดลายที่สวยงาม ทำให้ผลิตภัณฑ์ย่านลิเภาครองใจผู้ใช้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ต้องปรับตัวเพื่อให้ทันกระแสโลก




“เราต้องการให้งานจักสานย่านลิเภาสามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ โดยที่ไม่ต้องปรับเปลี่ยนรากเหง้าทั้งหมด แต่ผสมผสานความเป็นวัฒนธรรมพื้นบ้านจากงานจักสานและย่านลิเภาที่เป็นไม้ ประจำถิ่น กับไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน อย่างกลมกลืน เพื่อให้ โฟลี่ บาย บุญยรัตน์ เป็นแบรนด์ที่คนรุ่นใหม่รับรู้และนึกถึงเมื่อต้องการสิ่งที่แตกต่าง แล้วไอเดียก็เป็นจริงเมื่อมีโครงการ นครศรีดี๊ ดี ด้วยคอนเซปต์ นครร่วมสมัย ซึ่งก็ตรงกับบุญยรัตน์ ที่ต้องการจะปรับตัวให้ร่วมสมัยเช่นกัน ก่อนที่จะได้รับแรงบันดาลใจจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ที่แนะให้ใช้ย่านลิเภาทำเคสไอโฟน ผมจึงร่วมกับกลุ่มสตรีแม่บ้านสหกรณ์การเกษตรท่าเรือ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีฝีมือประณีตในการจักสาน มาดำเนินการตามที่ตั้งใจ”

อุปกรณ์และวัสดุที่ใช้ในการทำผลิตภัณฑ์เครื่องจักสานย่านลิเภาเป็น “เคส” นั้น หลัก ๆ ก็มี ตัวเคส, มีด (ใช้สำหรับขูดเส้นลิเภาให้ได้ตามต้องการ), เหล็กแหลม (ใช้เจาะรูที่โครงเพื่อเสียบไม้ไผ่และช่วยในการจัดลาย), แผ่นโลหะเจาะรู (ใช้ขูดเกลาให้ย่านลิเภาและไม้ไผ่ที่ใช้ทำผลิตภัณฑ์มีขนาดเท่ากัน), ปลอกนิ้ว (ทำจากผ้าหนา ๆ ใช้สวมนิ้วเวลาขูดย่านลิเภา จะได้ไม่เจ็บ), กาวลาเท็กซ์ (ใช้ทาเส้นลิเภาให้ยึดติดกับโครงแบบที่จะทำ หรือใช้ยึดส่วนประกอบของกระเป๋า) และวัสดุหลักที่ใช้ในการทำคือ ย่านลิเภา ซึ่งย่านลิเภามี 2 ชนิดคือ ย่านลิเภาสีดำ และย่านลิเภาสีน้ำตาล

ขั้นตอนและวิธีการทำ “เคส” เช่น เคสไอโฟน เคสไอแพด จากย่านลิเภา

เริ่มจากนำย่านลิเภาใหญ่ไปลอกหรือปอกเปลือก แล้วนำเปลือกที่ลอกได้ไปแขวนตากลมในที่ร่มแห้ง จากนั้นก็นำมาฉีกเป็นเส้นตามขนาดที่ต้องการจะใช้งาน แล้วตั้งพักไว้ก่อน

นำกระป๋องนมมาเจาะรู 5 รู เรียงลำดับจากช่องใหญ่ไปหาเล็กที่สุด จากนั้นเอาย่านลิเภาที่เป็นเส้นฝอยมารูดทีละช่องจนถึงช่องเล็กที่สุด โดยดึงผ่านจากโคนถึงปลาย ก็จะทำให้ขนาดของย่านลิเภาเรียบและมีขนาดเท่ากัน ขั้นตอนนี้เรียกว่าการชักเลียด (ในการทำควรจะทำครั้งละมาก ๆ เพื่อสะดวกในการนำไปใช้ ส่วนย่านลิเภาที่ยังไม่ได้ใช้ก็ให้นำไปแช่ตู้เย็นเพื่อเก็บความชื้นไว้ เพื่อจะง่ายต่อการสาน เพราะถ้าเส้นลิเภาแห้งแล้วจะสานยาก)

การสาน นำเส้นลิเภาที่ขูดจนเส้นเป็นมันและเหนียวแล้ว มาสานแบบขัดเป็นลวดลายต่าง ๆ บนแป้นที่เตรียมไว้ เช่น ลายไทย ลายไทยประยุกต์, ลายดอกสี่เหลี่ยม, ลายสอง, ลายตาสับปะรด, ลายลูกแก้ว และลายอิสระที่ไม่มีแบบตายตัว ขึ้นอยู่กับผู้สานจะคิดและประดิษฐ์เองให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า โดยสีของลวดลายส่วนใหญ่มี 4 สี คือ สีเนื้อ สีน้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลแก่ และสีดำ ลักษณะงานจักสานวิธีนี้จะเป็นรูปทึบ จากนั้นก็นำไปประกอบเข้ารูปกับเคสไอแพด หรือไอโฟน หรืออื่น ๆ ที่เตรียมไว้ เพียงเท่านี้ก็จะได้ เคสลายไทยประยุกต์ ที่สวยงาม

เจษฎาบอกอีกว่า โฟลี่ บาย บุญยรัตน์ นำย่านลิเภามาทำเป็นเคส โดยช่างฝีมือด้านการสานย่านลิเภาทำงานร่วมกับดีไซเนอร์ที่ทางหน่วยงานส่ง เสริม-พัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมส่งมาเป็นที่ปรึกษา โดยลายสินค้าจะใช้ลายดั้งเดิม ทีมดีไซเนอร์จะเสริมในเรื่องรูปแบบ การวางลาย และองค์ประกอบทางด้านศิลปะ ซึ่งตัวงานก็ยังคงเน้นที่การทำมือ ไม่ใช้เครื่องจักรเลย ซึ่งนี่เป็นจุดขายอย่างหนึ่ง

ใครสนใจ “เคสจากย่านลิเภา” ต้องการติดต่อเจษฎา ติดต่อได้ที่ โทร.08-9474-3918, 08-9474-2053 และ 0-7535-6196 ทั้งนี้ งานจักสานเป็นมรดกที่สั่งสมและถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษไทยรุ่นแล้วรุ่นเล่า คือภูมิปัญญาไทยอันล้ำค่าที่ควรช่วยกันสืบทอด สร้างเป็นงานหัตถศิลป์ระดับชาติ และก็เป็นอีกหนึ่ง “ช่องทางทำกิน” ให้คนไทยสืบไป.

เชาวลี  ชุมขำ

...............................................      

คู่มือลงทุน...เคสย่านลิเภา

ทุนเบื้องต้น    ประมาณ  3,000 บาทขึ้นไป
ทุนวัสดุ    ประมาณ  50% ของราคา
รายได้    ราคา 850 บาทขึ้นไป / เคส
แรงงาน    1 คนขึ้นไป
ตลาด    แหล่งท่องเที่ยว, ผลิตขายส่ง
จุดน่าสนใจ    ภูมิปัญญาไทยทำเงินอินเทรนด์ 
Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/384/171340

Read More...


Finger Tell ไอเดียดีๆ ไม่มีวันหมดของจริง! *

Finger Tell…หุ่นนิ้วมือ หน้าตาประหลาด แต่น่ารักอย่าร้ายกาจโดยมีที่มาจาก "ความรัก" ของแม่ที่มีต่อลูก ที่อยากให้ลูกได้รับรู้ และสัมผัสถึงความรักของแม่ผ่านการเล่านิทานนิ้วมือ

เจ้า Finger Tell ไม่เพียงมีหน้าตาน่ารักแปลกๆ แต่ที่สำคัญหลักใหญ่ใจความนิทาน Finger Tell นั้นบอกได้เลยว่าไม่ใช่เรื่องราวเพ้อฝันฉันเจ้าหญิง-เจ้าชาย แต่ทว่า Finger Tell เลือกที่จะดำเนินเรื่องเล่านิทานในลักษณะการหยิบยกเรื่องสนุกๆ ในชีวิตประจำวันมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวพร้อมสอดแทรกเรื่องราวดีๆ เข้าไป ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการเพื่อปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความดีงามให้ลูกน้อย ตั้งแต่เด็กๆ นั่นเอง

Pic_280039


คุณ วรรณธิดา ตัณฑโกศัย (หนู) อดีตคนทำงานจากวงการออกแบบสื่อโฆษณา ได้ผันตนเองมาออกแบบงานผ้าสักหลาดเป็นโน่น นี่ นั่น ภายใต้แบรนด์ Finger Tell เล่าว่า หุ่นนิ้วมือ แรกเริ่มเดิมทีมาจากความชอบส่วนตัว เสร็จแล้วจึงลองทำขึ้นมาเพื่อเอามาเล่นเล่านิทานให้ลูกๆ ทั้ง 2 คนของเธอฟังเพลินๆ ก่อนนอน ส่วนหนึ่งคุณหนูบอกว่าอาจเป็นความฝังใจเกี่ยวกับความทรงจำดีๆ ที่เธอชอบหุ่นนิ้วมืออยู่แล้วเป็นทุนเดิม วันหนึ่งจึงอยากจะทำให้ลูกเล่นบ้าง ปรากฏว่าลูกๆ ทั้ง 2 คนชอบอกชอบใจกันใหญ่ถึงกับขอมีส่วนร่วมออกไอเดียให้คุณแม่ด้วยว่าทำตัว นี้-ตัวนั้นมาอีกสิ กระทั่งออกมาเป็นหุ่นนิ้วมือเซตของ Finger Tell ในปัจจุบัน

* Finger Tell นิทานสานสัมพันธ์ในครอบครัว*

"จริงๆ ความตั้งใจที่ทำ Finger Tell ขึ้นมา เราอยากให้มันเป็นสื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว เป็นไปในทางสร้างสรรค์ หมายถึงว่า ทุกวันนี้คนเป็นพ่อแม่เช้าขึ้นมาก็กระวีกระวาดรีบออกไปทำงาน กลับบ้านอีกทีก็ค่ำมืด ครอบครัวจะมีเวลาที่จะอยู่ด้วยกันได้จริงๆ ก็เล่านิทาน มีการพูดคุยกัน ฯลฯ มันเป็นโอกาสให้เราสอดแทรกเรื่องดีๆ ให้กับพวกเขาได้ ก็เลยอยากทำหุ่นนิ้วมือเพื่อสอนเขาผ่านการเล่านิทาน แขณะเดียวกันก็ได้ทำไปให้เด็กด้อยโอกาสต่างๆ ด้วย ทั้งที่ตอนนั้นแค่อยากทำเป็นงานอดิเรกไม่ได้คิดทำขายจริงจังเลยนะ แต่พอทำไปทำมาคนชอบมากขึ้น จึงเป็นเหตุผลให้เราทำขายในเวลาต่อมา"

*แตกไลน์ เก๋ได้ทั้งครอบครัว*

"หลัง จากทำขายไปได้ระยะหนึ่ง พร้อมกันนี้ก็ได้มาเข้าร่วมอบรมกับทาง TCDC มันก็ต่อยอดให้กับเราอีกว่า เออ! แท้ที่จริงแล้วเราสามารถนำเอาคาแรกเตอร์หุ่นนิ้วมือพวกนี้ไปดีไซน์เป็นข้าว ของเครื่องใช้อื่นๆ ในบ้านได้อีกนะ เช่น ผ้าเช็ดมือ สายรัดผ้าม่าน  หมอนรองมือ ข้อดีมันคือเป็นของใช้ที่เพิ่มฟังก์ชั่นใส่การดีไซน์ให้ดูแล้วเกิดอารมณ์ อมยิ้ม เห็นแล้วน่ารัก เกิดบรรยากาศสดใสภายในบ้าน เรียกว่าสินค้า Finger Tell ไม่ได้จำกัดแค่หุ่นนิ้วมืออีกต่อไป ทว่า คุณลูกก็มีของเล่น คุณแม่มีของใช้น่ารักๆ เช่น ผ้าเช็ดมือ สายรัดผ้าม่าน ส่วนคุณพ่อก็จะมีของใช้สำหรับใช้ในออฟฟิศ ใช้ในรถ เช่น ตุ๊กตาแขวนในรถ หมอนรองมือจับเมาท์คอมพิวเตอร์ ฯลฯ เหล่านี้เป็นต้น"

*จินตนาการสร้างสามัญสำนึก*

Finger Tell จะตัดเย็บโดยใช้ผ้าสักหลาดสีสันสดใสเป็นหลัก โดยในเซตนิทาน Finger Tell ก็จะเน้นปลูกฝังให้เด็กๆ เกิดจิตสำนึกรักเรื่องการรักษาความสะอาด, รักษาสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีภายในครอบครัวอีกด้วย ที่สำคัญ คือสิ่งที่เล่าให้เด็กๆ ฟังในวันนี้ คือสิ่งที่จะมีผลต่อพื้นฐานแนวคิดในอนาคตนั่นเลยทีเดียว ปัจจุบัน Finger Tell มีทั้งหมด  4 เซต ได้แก่เรื่อง เช่น เรื่อง รักต้นไม้ รักโลก, หนูรักทะเล, บ้านเราสะอาดจัง และหนูชอบกินผัก โดยนิทานจะแต่งขึ้นมาเน้นผูกเรื่องสนุก สอดแทรกคำสอนเด็กในรูปแบบที่รับรองว่า สนุกชนิดสะกดคำว่าเบื่อไม่เป็นแน่ๆ

 
สำหรับ Finger Tell เซตนิทาน (ประกอบด้วยหุ่น 5 ตัว, โปสการ์ดรายละเอียดตัวละคร พร้อมนิทาน และสแตนด์ใส่ตัวละคร) สนนราคา 450 บาท ส่วนกลุ่มสินค้าอื่นๆ เช่น หมอนรองมือจับเมาท์คอมพิวเตอร์ สายที่คั่นหนังสือ สายรัดผ้าม่าน (ใครขี้เกียจผูกผ้า ต้องสายรัดนี้ภายในมีลวดที่ใช้พันบิดสนุก ไม่ต้องผูกก็เอาอยู่) ผ้าเช็ดมือ หมอนรองหลัง ฯลฯ ราคาจะเริ่มตั้งแต่  200-500 บาท ขึ้นอยู่กับสินค้า

สนใจงานอารมณ์ดี นิทานเวิร์กๆ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 08-0223-2000, facebook.com/fingertell


Credit by..http://www.thairath.co.th/content/eco/280039

Read More...


‘แม็กเน็ตภาพวาด’ ต่อยอดงานอาร์ตทำเงิน *

งานอาร์ตแฮนด์เม ดสามารถพลิกแพลงต่อยอดสร้างสรรค์เป็นสินค้าใหม่ออกสู่ ตลาดได้เรื่อย ๆ และยังสร้างรายได้ให้กับผู้ที่สร้างสรรค์งานได้เป็นอย่างดี อย่างการนำภาพวาดภาพเขียนแนวการ์ตูนน่ารัก ๆ สีสันสดใส มาต่อยอด ทำเป็น “แม็กเน็ต” “ที่แขวนกุญแจ” ออกขายเป็นสินค้ากลุ่มของขวัญของฝาก นี่ก็เป็น “ช่องทางทำกิน” ที่น่าพิจารณา...

โอเล่-รุ่งนภา จะโนภาษ ซึ่งนำภาพวาดมาสร้างสรรค์เป็นสินค้า อาทิ “แม็กเน็ตติดตู้เย็นจากภาพวาด” และ “ที่แขวนพวงกุญแจจากภาพวาด” เล่าว่า เดิมนั้นพอเรียนจบออกมาก็เข้าทำงานประจำเป็นประชาสัมพันธ์ ทำอยู่ได้ระยะหนึ่งก็เริ่มรู้สึกเบื่อ เริ่มไม่สนุกกับงานที่ไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง อยากทำงานที่เป็นเจ้านายตัวเอง



ต่อมาจึงออกจากงานประจำที่ทำอยู่ แล้วก็เริ่มมองหาอาชีพใหม่ จนในที่สุดก็มาทำอาชีพค้าขาย โดยช่วงนั้นขายกระเป๋ามือสอง ขายอยู่นานพอสมควร จนตลาดเริ่มไม่ดีเหมือนอย่างเก่า ลูกค้าเริ่มน้อยลง จึงมองหาสินค้าใหม่ ๆ มาขาย

“ในช่วงนั้นแฟนได้เริ่มไปหัดเรียนวาดภาพ ฝึกฝนอย่างจริงจังอยู่ได้ประมาณ 2 เดือน พอวาดได้ในระดับหนึ่งจึงตัดสินใจที่จะเปิดร้านวาดภาพขาย จึงเริ่มฝึกหัดวาดรูปวาดภาพบ้าง เพื่อที่จะได้ช่วยกัน ซึ่งก็ใช้เวลาอยู่พอสมควร แต่ก็พอจะมีพื้นฐานตั้งแต่ตอนเรียนอยู่บ้างเล็กน้อย จึงทำได้ และมาถึงตอนนี้ด้วยประสบการณ์ที่ทำมากว่า 10 ปี ก็ทำให้เรียนรู้เทคนิคต่าง ๆ มากขึ้น รวมถึงก็อาศัยดูเทคนิคต่าง ๆ จากอินเทอร์เน็ต แล้วก็มาลองทำดู”

ภาพที่วาดออกมาขายส่วนใหญ่จะออกเป็นแนวน่ารัก ๆ สีสันสดใส หรือที่เรียกว่า “แนวป๊อบอาร์ท” โดยจะเน้นรูปการ์ตูนสัตว์ต่าง ๆ และดอกไม้ โดยแบบส่วนใหญ่จะพยายามคิดขึ้นมาเอง เน้นสีสันสดใส มองแล้วเพลินตา


ที่มาจับงานวาดภาพแนวนี้ ก็เนื่องจากตอนแรกยังแค่เริ่มหัดวาดภาพใหม่ ๆ ซึ่งงานแนวนี้เป็นงานวาดที่ไม่ยาก ไม่ต้องใช้เทคนิคการวาดมากมาย เพียงแต่เป็นงานที่ต้องผสมผสานใส่ไอเดียลงไปในการวาดด้วยเท่านั้น ส่วนรูปแบบ ลายต่าง ๆ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อย ๆ ตามสมัยนิยม แต่ยังคงสไตล์เดิม...

หลังจากที่วาดภาพลงเฟรมผ้าใบขายอยู่ระยะหนึ่ง ก็เริ่มมีความคิดว่ารูปภาพที่วาดน่าจะสามารถต่อยอดเป็นสินค้าอื่น ๆ อย่างพวกแม็กเน็ต ที่แขวนพวงกุญแจ เป็นการขยายกลุ่มลูกค้า และน่าจะขายได้ง่ายกว่าภาพวาดที่เป็นงานชิ้นใหญ่ที่ทำออกมาได้ช้า ซึ่งหลังจากทดลองทำแม็กเน็ตออกมาก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ลูกค้าส่วนใหญ่จะซื้อไปเป็นของขวัญของฝาก บางคนสั่งทำเป็นของชำร่วยแจกในงานแต่งงานก็มี

วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำ หลัก ๆ ก็มี... รูปวาดที่ทำเป็นเป็นรูปถ่าย, แผ่นแม่เหล็ก (ใช้แบบบางประมาณ 0.5 มิลลิเมตร โดยเลือกซื้อที่มีแถบกาวในตัว), คัทเตอร์, ไม้บรรทัด, ไม้ MDF, กาวลาเท็กซ์, เทปกาว 2 หน้า เป็นต้น


  ขั้นตอนการทำ กรณีทำเป็น “แม็กเน็ต” เริ่มจากถ่ายรูปภาพวาดต้นฉบับ ที่วาดไว้ขายอยู่แล้ว จากนั้นก็นำภาพไปทำการตกแต่งในคอมพิวเตอร์ ใช้โปรแกรมจัดตกแต่งสีและแสงให้สวยงามตามที่ต้องการ จะใส่ตัวอักษรข้อความต่าง ๆ ด้วยก็ได้ตามต้องการ จากนั้นก็จัดไซส์รูป ทำให้ได้ขนาด 6x6 ซ.ม. และ 6x8 ซ.ม. จัดวางให้อยู่ในกรอบรูปขนาด 5x7 นิ้ว จากนั้นก็นำรูปไปอัดรูปที่ร้านถ่ายรูป ก็จะได้รูปถ่ายไซส์ขนาด 5x7 นิ้ว ที่มีภาพวาดที่ตกแต่งและจะนำไปทำเป็นแม็กเน็ตอยู่ในรูปถ่ายที่อัดมา ประมาณ 3-4 รูป

หลังจากได้ภาพที่อัดมาแล้ว ก็ใช้คัทเตอร์ตัดรูปภาพออกมา จากนั้นก็นำรูปไปติดลงบนแผ่นแม่เหล็กชนิดบางที่มีแถบกาวอยู่ด้านบน ติดเรียงให้เต็มแผ่นแม่เหล็ก จากนั้นก็ตัดออกมาทีละรูป เท่านี้ก็เรียบร้อย แพ็คใส่ถุงพลาสติกใสพร้อมขายได้ทุนการทำแม็กเน็ตแบบนี้ เฉพาะทุนในส่วนของวัสดุอยู่ที่ประมาณ 5 บาทต่อชิ้น

กรณีจะทำเป็น “ที่แขวนกุญแจ” ขั้นตอนการทำก็เหมือนกับการทำแม็กเน็ต คือต้องอัดรูปก่อน โดยให้ทำไซส์รูปขนาด 8x10 ซ.ม. แล้วก็ตัดไม้ MDF เท่ากับขนาดของไซส์รูป ทำการขัดไม้ให้เรียบ จากนั้นก็ใช้สีขาวทาขอบไม้ เพื่อความสวยงาม จากนั้นก็นำรูปที่อัดมาตัดตามขนาดแล้วนำมาติดลงบนไม้ที่เตรียมไว้ ยึดติดด้วยกาวให้แน่น ใส่ตะขอสำหรับใช้แขวนพวงกุญแจเข้าไป ด้านหลังติดด้วยเทปกาว 2 หน้า เป็นอันเสร็จ พร้อมห่อใส่ถุงเตรียมขายทุนวัสดุในการทำที่แขวนกุญแจ อยู่ที่ประมาณ 10 บาทต่อชิ้น
สำหรับราคาขายนั้น แม็กเน็ตจากภาพวาดของโอเล่จะขายอยู่ที่ราคา 20 บาทต่อชิ้น ส่วนราคาขายที่แขนพวงกุญแจอยู่ที่ 35 บาท ต่อชิ้น ซึ่งถ้าลูกค้าสั่งจำนวนมากก็จะได้ราคาที่ลดลงอีก
                                                
ใครสนใจชิ้นงาน “แม็กเน็ตและที่แขวนกุญแจจากภาพวาด” ของโอเล่ รวมถึงสนใจจะออเดอร์ไปจำหน่ายต่อ ไปดูกันได้ที่ เจเจ มอลล์ (JJ MALL) ชั้นใต้ดิน ซอย 8 ห้อง G276 หรือติดต่อทางโทรศัพท์ที่ โทร.08-1860-9293 ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” จากการต่อยอดชิ้นงานแฮนด์เมด ที่สร้างรายได้ได้อย่างพิจารณา.
                                                  
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์
.......................................................................
คู่มือลงทุน...แม็กเน็ตภาพวาด
ทุนเบื้องต้น    ประมาณ 5,000 บาท
ทุนวัสดุ        ประมาณ     5 บาท / ชิ้น
รายได้        ราคาขาย 20 บาท / ชิ้น
แรงงาน        1 คน
ตลาด        กลุ่มของขวัญ, ของชำร่วย
จุดน่าสนใจ    ลงทุนต่ำ-ทำได้ไม่ยากเกิน

Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/384/167020

Read More...


นาฬิกาแผ่นเสียงฉลุ *

“ความคิดสร้างสรรค์” เป็นกุญแจสำคัญสำหรับคนที่คิดจริงจังกับอาชีพงานประดิษฐ์ อย่างเช่นเจ้าของ ’ช่องทางทำกิน“ รายนี้ ที่นำความชื่นชอบกับความชำนาญด้านการออกแบบ มาผนวกเข้ากับวัสดุที่เมื่อนำมาประดิษฐ์แล้วโดดเด่นน่าสนใจ แถมยังทำตลาดได้ไกลถึงต่างประเทศ ชนิดที่ไม่ต้องมีหน้าร้านเสียด้วยซ้ำ เพราะอาศัยช่องทางเผยแพร่ผลงานสินค้าผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต กับชิ้นงาน ’นาฬิกาแผ่นเสียงฉลุ“ ของ “อนันต์ โลภาส” รายนี้...

อนันต์ เล่าว่า ก่อนหน้านั้นทำงานบริษัทเกี่ยวกับการออกแบบกราฟิกมานาน จนเริ่มอิ่มตัวกับการทำงานในระบบออฟฟิศ จังหวะพอดีกับที่มีเพื่อนมาชวนไปลงทุนเปิดร้านจำหน่ายของที่ระลึกที่ตลาดนัด สวนลุมไนท์บาซาร์ ทำได้ระยะหนึ่ง จังหวะกับที่ตลาดนัดดังกล่าวได้หมดสัญญาและปิดตัวลง จึงกลับมาช่วยงานพี่ที่รู้จักรับผลิตงานศิลปะและรับทำป้ายโฆษณา ทำให้พบเห็นว่ามักจะมีเศษวัสดุที่เกี่ยวกับการทำป้ายเหลืออยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะแผ่นอะคริลิกกับแผ่นไม้ จึงเกิดความคิดว่าน่าจะนำมาทดลองประดิษฐ์ขึ้นเป็นชิ้นงานได้ โดยเริ่มทำมาเรื่อย ๆ และทดลองนำไปฝากขายตามร้านขายงานฝีมือที่รู้จัก ปรากฏว่าได้รับการตอบรับ จึงพยายามหาไอเดียเพิ่มขึ้น จนไปสะดุดกับงานจากวัสดุแผ่นเสียงหรือที่เรียกกันว่าแผ่นไวนิลเก่าที่ใช้งาน ไม่ได้แล้ว จนกลายเป็นชิ้นงานอย่างที่เห็นในปัจจุบัน


“บังเอิญไปเจองานที่เขาเอาแผ่นเสียงตั้งโชว์เป็นนาฬิกา แต่ไม่มีลวดลายอะไรเลย เราก็ลองไปหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต จากนั้นก็ลองนำมาดัดแปลงทำในสไตล์เราขึ้นมา ลายส่วนใหญ่ถ้าไม่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวก็จะเป็นสัญลักษณ์ที่ชาวต่างประเทศ รู้จักและจดจำได้ถึงความเป็นเมืองไทย นอกจากนั้นก็มีงานที่เป็นรูปศิลปินเพลงต่างประเทศที่เราชื่นชอบหรือเป็นวง ตำนานเก่าแก่ ปรากฏว่าลูกค้าชอบมาก จึงทำมาเรื่อย ๆ” อนันต์กล่าว

เขาเล่าอีกว่า ลูกค้ารู้จักชิ้นงานในชื่อ “นาฬิกาแผ่นเสียงฉลุ” หรือหากเป็นชาวต่างประเทศจะเรียกชิ้นงานว่าเป็น รีไวนิล-วอลล์คล็อก (Revinyl-Wallclock) ที่ผลิตอยู่มีหลายแบบ และพยายามออกแบบลายใหม่เรื่อย ๆ เพื่อให้ลูกค้าเลือก นอกจากชิ้นงานสำเร็จรูปแล้วยังสามารถสั่งทำเป็นภาพตัวเองหรือคนอื่น หรือสั่งให้ใส่ชื่อหรือข้อความได้ด้วย

ช่องทางการจำหน่ายนั้น ปัจจุบันจำหน่ายทางอินเทอร์เน็ต คือที่ www.etsy.com/shop/Anantalo ซึ่งเป็นเว็บไซต์จำหน่ายสินค้างานฝีมือ และเฟซบุ๊กชื่อ www.facebook.com/anantalo ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และถือว่าลดความเสี่ยงจากการลงทุนเปิดหน้าร้าน และก็มีบ้างบางครั้งที่นำงานไปจำหน่ายตามงานแสดงสินค้างานฝีมือ

’จุดเด่นของงานคือ เน้นลวดลายที่ออกแบบในสไตล์ของเราเอง ซึ่งสำหรับคนที่คิดจะทำงานฝีมือประเภทงานศิลป์ประดิษฐ์นี้ ความมีเอกลักษณ์ การมีสไตล์ของตัวเองที่ชัดเจน ถือว่าสำคัญมาก เพราะจะทำให้ลูกค้าจำงานของเราได้“ เป็นคำแนะนำจากเจ้าของชิ้นงานนาฬิกาแผ่นเสียงฉลุลาย...

ทุนเบื้องต้นอาชีพนี้ ใช้ประมาณ 10,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นค่าสต๊อกวัสดุ ขณะที่ทุนวัตถุดิบหรือวัสดุอยู่ที่ประมาณ 50% จากราคาขาย ซึ่งราคาขายนั้นเริ่มตั้งแต่ชิ้นละ 690 บาท ไปจนถึง 1,500 บาท ขึ้นอยู่กับความยากง่าย วัสดุอุปกรณ์ อาทิ แผ่นเสียงเก่า, เครื่องนาฬิกา, สีสเปรย์สำหรับพ่นตกแต่งลวดลาย, น้ำยาเคลือบเงา และวัสดุตกแต่งอื่น ๆ

ขั้นตอนการทำ เริ่มต้นจากการออกแบบ จากนั้นนำแผ่นเสียงที่เตรียมไว้มาเข้าเครื่องฉลุลายด้วยเลเซอร์ โดยค่าจ้างทำอยู่ที่ประมาณ 150-200 บาท ขึ้นอยู่กับความยากและรายละเอียดชิ้นงานและลวดลาย เมื่อได้ลวดลายที่ต้องการแล้วจึงทำการตกแต่งด้วยการลงสีตามตำแหน่งที่ต้อง การ จากนั้นทำการเคลือบเงา และทำการประกอบเครื่องนาฬิกาที่เตรียมไว้ลงไปในตำแหน่งที่ต้องการหรือตามที่ ได้ออกแบบไว้ เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำงาน

“สำหรับแผ่นเสียงที่อาจมีตำหนิหรือบิดแตกบางส่วนไปบ้าง ก็ไม่เป็นไร เพราะเราสามารถนำมาตัดหรือฉลุแก้ไขตรงส่วนนั้นให้เกิดเป็นลวดลายขึ้นมาได้ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับจินตนาการ ส่วนราคาแผ่นเสียงจะไม่แน่นอน แล้วแต่สภาพ แต่หลัก ๆ จะพยายามหลีกเลี่ยงแผ่นเสียงที่นักสะสมนิยมกัน เพราะจะมีราคาแพง” เจ้าของชิ้นงานกล่าว

ก่อนทิ้งท้ายด้วยว่า ผู้สนใจงานแฮนด์เมดควรเริ่มจากการทำสิ่งที่ชอบหรือถนัด เริ่มทำจากน้อย ๆ ไปก่อน และพยายามมองหาช่องทางการขายที่ลงทุนน้อย เช่น การขายในตลาดออนไลน์ ซึ่งถ้าหากพัฒนางานของเราให้มีเอกลักษณ์และน่าสนใจได้ จากนั้นโอกาสก็จะตามมา สำคัญคือต้องอดทน และทำด้วยความรัก
ใครสนใจ ’ช่องทางทำกิน“ จาก ’นาฬิกาแผ่นเสียงฉลุ“ สนใจชิ้นงานประเภทนี้ เข้าไปดูเพิ่มเติมได้ตามที่อยู่เว็บไซต์และในเฟซบุ๊กดังที่ระบุไว้ในตอนต้น หรือต้องการติดต่อกับอนันต์ ก็ติดต่อได้ที่ โทร. 08-7072-2089 หรืออีเมล anantaloshop@gmail.com
ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ เรื่อง-ภาพ
Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/384/168439

Read More...


ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0










































 
Blogger Tips and TricksLatest Tips And TricksBlogger Tricks
Do it your self,handmade,HandiCraft,งานฝีมือ,อาชีพเสริม,ช่องทางทำเงิน บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.